อันดับการลงสกินแคร์ Day Cream ให้เหมาะสมพร้อมแนะนำสกินแคร์ในแต่ละขั้นตอน

อันดับการลงสกินแคร์ Day Cream ให้เหมาะสมพร้อมแนะนำสกินแคร์ในแต่ละขั้นตอน

อันดับการลงสกินแคร์นั้นสำคัญมาก ๆ โดยมีกฎพื้นฐานเลยคือการดูตามหน้าที่ของสกินแคร์ในแต่ละตัวและดูความข้นจากเนื้อสัมผัสเป็นหลักค่ะ หลาย ๆ คนอาจคิดว่าสกินแคร์บางตัวสามารถทารวมกันพร้อมกันได้เลย เพราะสุดท้ายก็ไม่รวมกันอยู่บนผิว แต่การทาเช่นนี้อาจทำให้สกินแคร์แต่ละตัวนั้นไม่สามารถแสดงประสิทธิภาพได้อย่างสูงสุดเท่าที่ควร ยกตัวอย่างง่าย ๆ หากเพื่อน ๆ มีปัญหาสิวแต่ดันทาพวกเซรั่ม มอยส์เจอไรเซอร์ก่อนที่จะลงเจลหรือครีมแต้มสิว ส่วนผสมหลักอย่างกรดซาลิไซลิกแอซิดก็จะไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะถูกเซรั่ม ครีมและมอยส์เจอไรเซอร์กลบผิวอยู่ และแน่นอนว่าเมื่อมี Day Cream ก็ต้องมี Night Cream ซึ่งแน่นอนว่ามีการแบ่งแยกประเภทชัดเจนขนาดนี้ แสดงว่าช่วงเวลาของการลงสกินแคร์ก็สำคัญไม่แพ้อันดับการลงเลย เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น เราขอยกตัวอย่างกรณีคล้าย ๆ เดิมคือเพื่อน ๆ เป็นสิวแต่เพื่อน ๆ ดันเลือกใช้ครีมหรือเจลแต้มสิวในเวลากลางวัน เมื่อออกไปข้างนอกเจอแดดแรง ๆ ก็มีความเสี่ยงสูงว่าผิวจะถูกกระตุ้นให้แสบไหม้ได้เหมือนกันนะ เมื่อเพื่อน ๆ ตระหนักได้ถึงความสำคัญของอันดับการลงสกินแคร์ Day Cream และ Night Cream แล้ว เราไปดู อันดับการลงสกินแคร์ Day Cream ให้เหมาะสมพร้อมแนะนำสกินแคร์ในแต่ละขั้นตอน กันต่อเลยจ้า

Step 1: คลีนซิ่ง (Cleansing)

เมื่อตื่นเช้าขึ้นมาหลาย ๆ คนคงคิดว่าไม่ต้องใช้ “คลีนซิ่งหรอก” เพราะหน้าไม่ได้ไปเจอสิ่งสกปรกอะไรมากมาย แต่หารู้ไม่ว่าความจริงแล้วในตอนที่เราหลับก็มีฝุ่นละอองในอากาศและที่นอนมาเกาะหน้าเรา ที่สำคัญการเช็ดคลีนซิ่งในตอนเช้าก็เป็นการทำความสะอาดผิวขั้นตอนแรกที่จะช่วยเช็ดพวกเล่า Night Cream ที่ตกค้างบนใบหน้าออกและพร้อมรับสกินแคร์ใหม่ในตอนเช้าค่ะ

สกินแคร์แนะนำ คือ

1. Sulwhasoo Gentle Cleansing Oil

เป็นคลีนซิ่งออยล์ที่เน้นออยล์จากสมุนไพรต้นตำรับจากเกาหลี ที่ทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก พร้อมเข้ามาช่วยกระชับรูขุมขน ผิวเรียบเนียนมากขึ้น มีส่วนประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ Hydra Capture Complex™ ที่จะเข้ามาช่วยเติมเต็มและรักษาระดับความชุ่มชื่นให้ผิวอย่างยาวนาน

2. Banila Co Clean It Zero Cleansing Balm Original

ตัวนี้ความจริงแล้วมี 4 สูตรด้วยกัน แต่สูตรที่เราขอแนะนำนั่นคือ สูตรสีชมพูหรือก็คือสูตร Original สามารถทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึกแม้ไม่ล้างน้ำออก กระชับรูขุมขนให้เล็กลง มอบผิวที่ชุ่มชื่น ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้เพราะปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น พาราเบน แอลกอฮอล์และสีสังเคราะห์เป็นต้น

Step 2: โทนเนอร์ (Toner)

หลังจากที่เราเช็ดหน้าด้วยคลีนซิ่งและล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ไปแล้ว ต่อมาคือการเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์ค่ะ เป็นสเต็ปที่จะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้ แต่ถ้าใช้ก็จะดีกว่า เพราะโทนเนอร์จะเข้ามาช่วยปรับสภาพผิวหลังจากล้างหน้าให้เกิดความสมดุลพร้อมสำหรับการบำรุงอย่างเต็มที่ แถมเป็นการทำความสะอาดผิวไปอีกขั้นหนึ่งด้วย แต่ควรระวังโทนเนอร์ที่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ผิวแห้งมากกว่าเก่าค่ะ

สกินแคร์แนะนำ คือ

1. FreshRose Deep Hydration Facial Toner

เหมาะกับทุกผิว ขาดความชุ่มชื่นจากความเครียดหรือมลภาวะต่าง ๆ แถมยังบอบบางแพ้ง่าย ไม่แข็งแรง เพราะมีสารสกัดจากกุหลาบที่จะช่วยเติมเต็มน้ำให้ผิวและปรับสมดุลผิวให้กระชับขึ้น เสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรงขึ้น มาพร้อมกับส่วนประกอบอื่น ๆ เช่นกลีบกุหลาบที่ช่วยในเรื่องการทำความสะอาด สารสกัดใบแองเจลิก้าและกรดไฮยาลูรอนที่จะมอบความชุ่มชื่นให้อย่างเต็มพิกัด เพื่อผิวที่แลดูอุ้มน้ำและแข็งแรงสุด

Step 3: ทรีตเมนต์ เอสเซนส์ (Treatment Essences) และทรีตเมนต์ โลชั่น (Treatment Lotion)

เป็นสเต็ปเสริมเช่นกัน เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นน้ำตบ ที่จะช่วยมอบความชุ่มชื่นและบำรุงผิวสุด ๆ มีเนื้อสัมผัสที่บางเบา เพราะเป็นเนื้อน้ำ แถมการใช้น้ำตบยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตด้วยนะ

#การลงสกินแคร์ #เสริมสวย #ทริคความงาม

Our Partner